❥อัตชีวประวัติหลวงปู่บุญยัง อาจาโร❥
วัดนิลาวรรณประชาราม ต.วังโบสถ์ อ. หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
หลวงหลวงปู่บุญยัง ถือกำเนิดในสกุล เดชขจร เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๗ ที่ ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อนายเล็กและนางแจ๋ว เดชขจร
ช่วงวัยเยาว์เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่บ้านเกิด พออายุได้ ๑๗ ปี ได้บวชเป็นสามเณร ด้วยความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา จึงได้เล่าเรียนจนสอบได้นักธรรมตรี ,
นักธรรมโท จนถึงนักธรรมเอก ตามลำดับ ท่านจบเปรียญธรรม ๓ ประโยค เมื่ออายุได้ ๒๐ ปี เมื่ออายุครบบวช ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบท ตามโบราณประเพณี
เพื่อทดแทนคุณบิดา มารดา (แต่พระอุปัชฌาย์ไม่ทราบแน่ชัด)
ต่อมาพอท่านได้ทราบถึงกิตติศัพท์ ของ “หลวงพ่อเดิม” ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีประชาชนเคารพนับถือมาก ท่านเกิดศรัทธา จึงออกเดินท่องธุดงควัตรไปยังวัดหนองโพ
ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน , กำหนดจิต จนกระทั่งมีความรู้แก่กล้าตามลำดับ
ด้วยความเมตตา “หลวงพ่อเดิม” ท่านจึงได้ถ่ายทอดสรรพวิชาคาถา ต่างๆ ให้กับ”พระบุญยัง” พร้อมกับศิษย์ “หลวงพ่อเดิม” ในสมัยนั้น เมื่อได้เล่าเรียนสรรพวิชาคาถา ต่างๆ
จาก “หลวงพ่อเดิม” จนได้พอสมควรแล้ว หลวงปู่จึงได้กราบลาหลวงพ่อเดิม ท่านก็ได้ไปกราบนมัสการ “หลวงพ่อพรหม” วัดช่องแค เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาด้านจิตกรรมฐาน
และสรรพวิชาต่างๆจาก “หลวงพ่อพรหม” และต่อมาได้กราบลา “หลวงพ่อพรหม” ออกเดินธุดงค์ ตามป่าเขาในเขตพื้นที่ จ.ลพบุรี
ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์
หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา
หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน
หลวงพ่อเคลือบ วัดมหาสอน
เพื่อศึกษาธรรมะ วิปัสสนากรมฐาน
จนกระทั่งได้เป็นพระครูอยู่ที่ จ.ลพบุรี
เมื่อตอนที่หลวงปู่ได้เป็นพระครูอยู่ที่ จ.ลพบุรี หลวงปู่ท่านได้ไปมาหาสู่กับพระสหธรรมมิกที่เป็นเพื่อนเรียนสรรพวิชาด้วยกันเมื่อครั้งตอนอยู่กับหลวงพ่อเดิม ได้แก่
หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว
หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
หลวงพ่อลออ วัดหนองหลวง และ
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
หลวงปู่บุญยัง ได้ ศึกษาการปฏิบัติกรรมฐาน กับ “หลวงพ่อกบ” และ “หลวงพ่อจรัญ” ในขณะที่อยู่กับหลวงพ่อจรัญนั้นท่าน ได้รับหน้าที่เป็นพระสอนการปฏิบัติธรรมให้กับ
ญาติโยม ที่มาปฏิบัติธรรมภายในวัด ประมาณ ๒ ปี หลวงพ่อจรัญจึงได้ขอให้หลวงปู่บุญยัง ไปเป็นครูสอนปฏิบัติธรรมที่ จังหวัดปราจีนบุรี แต่หลวงปู่ท่านไม่อยากไป
จึงได้กราบลาหลวงพ่อจรัญ เพื่อไปศึกษาเล่าเรียนต่อ จนกระทั่งได้มาอยู่ที่วัดบัวหลวง จ.ลพบุรี เป็นเวลา ๗ ปี หลังจากนั้นท่านได้ย้ายมาจำวัดที่ วัดวังตะเคียน ,วัดซับตะเคียน
และวัดเชือกหนัง จ.ลพบุรี ตามลำดับ แต่ละวัดส่วนใหญ่ที่หลวงปู่บุญยัง ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ ต้องการให้หลวงปู่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ปกครองวัด แต่หลวงปู่ท่านไม่รับ ตำแหน่ง
โดยแต่ละวัดที่หลวงปู่ท่านเพียวไปอยู่นั้น หลวงปู่ท่านก็ได้จัดสร้างถาวรวัตถุ-เสนาสนะ ต่างๆ เพื่อพัฒนา และสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรือง
จนกระทั่งสังขารหลวงปู่ท่านแก่ชราภาพมากแล้ว บรรดาญาติลูกหลาน และศิษยานุศิษย์ จึงได้กราบนิมนต์หลวงปู่ท่านมาพักจำพรรษาอยู่วัดนิลาวรรณประชาราม ในปัจจุบัน
หมายเหตุ:-ข้อมูลอาจจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม